วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559


สวัสดีค่ะ




เราชื่อนางสาวนิธิดา หงษ์ทอง 

 เว็บบล็อคนี้จะมาสอนเพื่อนๆเกี่ยวกับคำที่เราใช้ในชีวิตประจำวันที่เราทุกคนชอบสะกดหรือเข้าใจกันผิดเรามาเริ่มเรียนรู้กันเลยดีกว่าค่ะ


25 คำที่มักเขียนผิด



1 โอกาศ VS โอกาสคำที่ถูก >> โอกาสคำนี้มีน้องๆ แนะนำมาว่าเจอคนเขียนผิดบ่อยมาก มักจะใช้ ศ สะกดเหมือนกับคำว่า อากาศ แต่ที่ถูกต้องจริงๆ จะต้องใช้ “ส” ในการสะกดค่ะ เนื่องจาก”โอกาส” เป็นคำภาษาบาลี ซึ่งภาษาบาลี ไม่มี “ศ” “ษ” นะคะ จำไว้ให้แม่นเลย


2ทะเลสาบ VS ทะเลสาป
คำที่ถูก >> ทะเลสาบ
คำว่า “สาบ” กับ “สาป” เป็นอีกคู่ที่น้องๆ มักสับสน นอกจากไม่รู้ว่าต้องใช้ตัวไหนแล้วยังไม่รู้ด้วยว่าสองคำนี้ต่างกันอย่างไร
คำว่า “สาป” ในภาษาไทยมีเพียงความหมายเดียว หมายถึง คำแช่งให้เป็นไปต่างๆ มาจากภาษาบาลีค่ะ
ส่วน “สาบ” มีหลายความหมายเลย เช่น กลิ่นเหม็นสาบ, แมลงสาบ, สาบเสื้อสำหรับเจาะรังดุม และใช้เรียกห้วงน้ำใหญ่คล้ายบึง หรือ ทะเลสาบนั่นเอง ดังนั้นถ้าไม่ได้คิดแช่งใคร เมื่อสะกดคำว่า “สาบ” ให้ใช้ “บ” สะกดเสมอนะคะ


3 เครื่องสำอางค์ VS เครื่องสำอาง
คำที่ถูก >> เครื่องสำอาง
หนึ่งคำที่มองไปทางไหนก็เจอแต่คนเขียนผิดและใช้ผิดต่อๆ กันไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เครื่องสำอางค์ ที่เขียนแบบนี้ไม่มีความหมายในภาษาไทยเลย ที่ถูกต้องจริงๆ ต้องเขียนว่า “เครื่องสำอาง” แบบไม่มี “ค์” ค่ะ (บางทีคนไทยก็ชอบเขียนคำง่ายๆ ให้เป็นคำยากๆ เสมอ)
โดยคำว่า “สำอาง” มีความหมายว่า สิ่งเสริมแต่ง บำรุงใบหน้า, งามสะอาดหมดจด เป็นต้น


4 นะค่ะ VS นะคะ VS น๊ะค๊ะ
คำที่ถูก >> นะคะ
สำหรับสาวๆ ที่ต้องใช้คำนี้เพื่อลงท้ายให้สุภาพ ควรเขียนคำนี้ให้ถูกต้องนะคะ เพราะต้องใช้ไปจนแก่เลย
/น/ และ /ค/ เป็นอักษรต่ำ ไม่ต้องเติมวรรณยุกต์ก็ออกเสียงวรรณยุกต์ตรีอยู่แล้ว ดังนั้น น๊ะค๊ะ ผิดเต็มๆ ส่วนนะค่ะ ไม่มีความหมายในภาษาไทยค่ะ


5 บังสุกุล VS บังสกุล
คำที่ถูก >> บังสุกุล
บังสุกุล เป็นคำที่ใช้เรียกผ้าที่พระสงฆ์ชักจากศพหรือผ้าที่ทอดไว้หน้าศพ คำนี้เมื่อพูดเร็วๆ รัวๆ อาจฟังเป็น บังสกุล ซึ่งเป็นการสะกดที่ผิดค่ะ(สกุล หมายถึง วงศ์ตระกูล) ก่อนสตาร์ทเขียนคำนี้ ตั้งสติดีๆ และอย่าลืมเติม “สระอุ” สองตัวนะคะ


6 บัญญัติไตรยางค์ VS บัญญัติไตรยางศ์
คำที่ถูก >> บัญญัติไตรยางศ์
บัญญัติไตรยางศ์ เป็นวิธีการทางคณิตศาสตร์วิธีนึงใช้สำหรับการเปรียบเทียบ สะกดเหมือนคำว่า “ไตรยางศ์” ที่แปลว่า 3 ส่วน ใช้ “ศ์” เสมอ ส่วน “ไตรยางค์” คำนี้ไม่มีความหมายนะคะ


7 บิดพลิ้ว VS บิดพริ้ว

คำที่ถูก >> บิดพลิ้ว
สำหรับคำนี้จุดที่ผิดบ่อยๆ คือ คำว่า “พลิ้ว” หลายคนใช้ควบกล้ำ “พร” เพราะดูคุ้นกว่า แต่หารู้ไม่ว่าในภาษาไทยคำว่าพริ้ว ไม่มีความหมายนะคะ ท่องไว้ “พลิ้ว” คือ อาการบิดเบี้ยว หรือสะบัดไปตามลม ดังนั้นเมื่อเจอ “ลม” ก็ใช้ “ล” สะกดนะ


8 บูชายันต์ VS บูชายัญ
คำที่ถูก >> บูชายัญ
การบูชายัญ เป็นการบูชาของพราหมณ์อย่างหนึ่งด้วยวิธีการฆ่าคนหรือสัตว์เป็นเครื่องบูชา ซึ่งคำว่า “ยัญ” ใน บูชายัญมีความหมายในตัวของมันอยู่แล้วคือ การเซ่น, การบูชา ดังนั้นก่อนเขียนให้ระลึกเสมอว่าบูชายัญเป็นการฆ่าคน ไม่ใช่การบูชาผ้ายันต์ นะคะ


9 ปฐมนิเทศ VS ปฐมนิเทศก์
คำที่ถูก >> ปฐมนิเทศ
น้องๆ ที่เข้า ม.1 ม.4 หรือเข้ามหาวิทยาลัย จะต้องผ่านการปฐมนิเทศเพื่อฟัง คำแนะนำต่างๆ ก่อน ถ้ามองความหมายทีละคำ จะเข้าใจความหมายมากขึ้น คือ ปฐมหมายถึงลำดับแรก ส่วนนิเทศ หมายถึงการชี้แจง, การแสดง โดย “นิเทศ” คำนี้ไม่ต้องมีตัวการันต์นะคะ ปล่อยโล่งๆ แบบนี้นี่แหละ


10 เปอร์เซนต์ VS เปอร์เซ็นต์
คำที่ถูก >> เปอร์เซ็นต์
ราชบัณฑิตยสถานได้ระบุวิธีเขียนคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษไว้หลายคำ รวมถึงคำว่า percent ด้วย ซึ่งวิธีเขียนที่ถูกต้องจะต้องใส่ไม้ไต่คู้ในพยางค์หลังว่า “เปอร์เซ็นต์” ค่ะ


11 ผีซ้ำด้ามพลอย VS ผีซ้ำด้ำพลอย

คำที่ถูก >> ผีซ้ำด้ำพลอย
เป็นอีกสำนวนหนึ่งที่เขียนผิดกันบ่อยๆ สาเหตุที่คนส่วนใหญ่เขียนคำนี้ผิดเป็น “ผีซ้ำด้ามพลอย” คงเป็นเพราะไม่รู้ความหมายของคำว่า “ด้ำ” ฟังไปฟังมาเลยเพี้ยนกลายเป็น “ด้าม” ไปซะอย่างนั้น
คำว่า “ด้ำ” เป็นภาษาถิ่นในภาคอีสาน หมายถึง ผีเรือน ค่ะ ผีซ้ำด้ำพลอยก็หมายถึง เราถูกผีอื่นกระทำแล้วยังถูกผีเรือนของตัวเองซ้ำเติมอีก ดังนั้นสำนวนนี้จึงหมายถึง ถูกซ้ำเติมอีกเมื่อพลาดพลั้ง ประมาณซวยซ้ำซวยซ้อนก็ได้ค่ะ


12 พิธีรีตอง VS พิธีรีตรอง
คำที่ถูก >> พิธีรีตอง
พิธีรีตอง หมายถึง งานพิธีตามแบบตามธรรมเนียม เวลาเขียนคำนี้ไม่ต้องเติม “ร” ในคำว่า “ตอง” นะคะ ท่องเลยๆ


13 แพทยศาสตร์ VS แพทย์ศาสตร์
คำที่ถูก >> แพทยศาสตร์
ใครอยากเป็นหมอจำคำนี้ไว้ดีๆ นะคะ คำว่า “แพทยศาสตร์” เป็นคำสมาสระหว่างคำว่า “แพทย์” + “ศาสตร์” เมื่อเอามารวมกัน คำก่อนหน้าที่มีการันต์ให้ตัดทิ้งได้เลย ดังนั้นเวลาออกเสียงคำนี้ให้อ่านว่า “แพด-ทะ-ยะ-สาด”


14 มัสหมั่น VS มัสมั่น
คำที่ถูก >> มัสมั่น
มัสมั่นเป็นชื่อแกงชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นแกงข้น ปรุงด้วยเครื่องเทศ ใส่ไก่หรือเนื้อลงไป(อร่อยมาก) น้องๆ หลายคนท่องกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานกันได้ แต่จะมีซักกี่คนที่เขียน “มัสมั่น” ถูก แม้ว่าพยางค์หลังของคำนี้ออกเสียงเหมือนมีอักษรนำตามหลัง แต่วิธีการเขียนที่ถูกต้องในภาษาไทย ต้องไม่มี “ห” นะคะ


15 มาตรฐาน VS มาตราฐาน

คำที่ถูก >> มาตรฐาน
คำง่ายๆ ที่บางคนก็เขียนผิด คำว่า “มาตรฐาน” เป็นคำสมาสอีกแล้วค่ะ เป็นการสมาสกันระหว่างคำ มาตร(สันสกฤต) + ฐาน(บาลี) ซึ่งเวลาอ่านคำสมาสเราก็ต้องออกเสียงสระอะ ของพยางค์ท้ายในคำหน้าด้วย การออกเสียงบ่อยๆ ทำให้รู้ว่าคำนี้เป็นเสียงสั้น อ่านว่า “มาด-ตระ-ถาน” ไม่ใช่ “มาด-ตรา-ถาน” ดังนั้นไม่ต้องเติม “สระอา” ตรงกลางนะจ๊ะ


16 เวทมนต์ VS เวทย์มนตร์ VS เวทมนตร์
คำที่ถูก >> เวทมนตร์
“เวทมนตร์” หมายถึง คำศักดิ์สิทธิ์ที่บริกรรมเพื่อให้สำเร็จตามสิ่งที่้ต้องการ คำนี้เขียนผิดกันหลายแบบเลยค่ะ โดยจะสับสนว่าต้องใส่ตัวการันต์หรือไม่ ใส่กี่คำ และใช้ตัวการันต์ตัวไหน
สรุปง่ายๆ ว่า คำว่า “เวท” ไม่ต้องมีการันต์ค่ะ โดยจะหมายถึงความรู้, ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกขึ้นเป็นคาถาอาคม เป็น “เวท” ตัวเดียวกับคำว่า “ร่ายเวท” “สามเวท” ค่ะ ส่วนคำว่า “มนตร์” นั้น ใช้ “ตร์” เป็นคำสันสกฤตค่ะ


17 แมลงสาป VS แมลงสาบ
คำที่ถูก >> แมลงสาบ
หลักการเขียนคำว่า “สาบ” พี่มิ้นท์ได้อธิบายไว้ในข้อ 28) แล้ว ดังนั้นการเขียนคำนี้ให้ถูกต้อง ต้องใช้ “บ” ถึงจะถูกต้องนะคะ


18 ไยแมงมุม VS ใยแมงมุม

คำที่ถูก >> ใยแมงมุม


19 หยากใย่ VS หยากไย่

คำที่ถูก >> หยากไย่


20 ลำไย VS ลำใย
คำที่ถูก >> ลำไย
ขอพูดรวบยอดคำที่ 21 – 23 พูดถึงการใช้สระ “ไ-” และ “ใ-” ในภาษาไทยสับสนกันพอสมควร วิธีจำการเขียนที่ถูกต้องคำในกลุ่มนี้ก็ไม่ยากค่ะ เชื่อว่าน้องๆ เคยท่องกลอน “คำไทยที่ใช้ไม้ม้วน” กันมาแล้ว ซึ่งกลอนบทนั้นได้รวบรวมคำไทยที่ใช้ไม้ม้วนทั้งหมด 20 คำไว้ ดังนั้นไม่มั่นใจคำไหน เสียเวลาท่องในใจกันซักนิด ถ้าไม่เห็นว่าอยู่ในกลอนนี้ใช้ “ไ-” โลดค่ะ ทบทวนกลอนกันซักนิด

ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ

ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ มิหลงใหลใครขอดู

จะใคร่ลงเรือใบ ดูน้ำใสและปลาปู

สิ่งใดอยู่ในตู้ มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง

บ้าใบ้ถือใยบัว หูตามัวมาใกล้เคียง

เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วนจำจงดี

สรุปแล้ว ใยแมงมุม ต้องใช้ ไม้ม้วน “ใ-” เหมือนห่วงใย

ส่วน “หยากไย่” และ “ลำไย” ใช้ไม้มลาย “ไ-” ค่ะ



22 ริดรอน VS ลิดรอน
คำที่ถูก >> ลิดรอน
จำได้ว่าสมัยเรียนเจอคำนี้ออกข้อสอบบ่อยเหลือเกิน(แต่ก็ไม่เคยจำวิธีเขียนที่ถูกซะที) ไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้อาจารย์ยังเอามาออกข้อสอบอยู่หรือเปล่า สำหรับคำนี้จะมึนๆ เรื่องการใช้พยัญชนะ เพราะไม่รู้ว่าพยางค์ไหนใช้ “ร” “ล” บางทีก็เขียนผิดไปใช้พยัญชนะตัวเดียวกันทั้งพยางค์หน้าและหลัง
วิธีการเขียนคำนี้ให้ถูกต้อง ต้องเขียนว่า “ลิดรอน” พยางค์หน้าใช้ “ล” พยางค์หลังใช้ “ร”อยากเขียนคำนี้ให้ถูกต้อง น้องๆ ต้องฝึกเขียนบ่อยๆ ค่ะเพื่อให้ชินมือ นอกจากนี้การอ่านออกเสียงควบกล้ำให้ตัวเองฟังบ่อยๆ ก็ช่วยจำวิธีเขียนคำนี้ได้เหมือนกัน


23 ลูกเกด VS ลูกเกตุ
คำที่ถูก >> ลูกเกด
ลูกเกด คือ ลูกองุ่นแห้งที่เป็นของกินเล่น หรือใช้ใส่ในข้าวผัดอเมริกันนั่นเอง “ลูกเกด” สะกดตรงๆ ใช้ “ด” สะกดได้เลยค่ะ ซึ่งคำว่า “เกด” ก็หมายถึงลูกองุ่นแห้งอยู่แล้ว ส่วนคำว่า “เกตุ” จะหมายถึง ธง ค่ะ ความหมายคนละเรื่องเลย
นอกจากนี้คำที่อ่านว่า “เกด” ที่มีปัญหาอีกคำ คือ “สังเกต” คำนี้ใช้ “ต” สะกด โดยไม่ต้องเติมสระอุ ค่ะ


24 ไล่เรียง-ไล่เลียง
คำที่ถูก >> ไล่เลียง
“ไล่เลียง” คือ การซักไซ้, ไต่ถาม มักจะใช้คู่กับคำว่า ซักไซ้ไล่เลียง คำนี้ใช้ “ล” สะกดทั้งสองตัวเลยนะคะ เพราะถ้าแยกความหมายของคำทั้งสองออก จากกัน จะพบว่า “ไล่” หมายถึง การขับออก, บังคับให้ไป ส่วน “เลียง” ก็หมายถึง การไล่สิ่งไม่บริสุทธิ์ออก ดังนั้นคำนี้จึงเป็นคำซ้อน ประเภทซ้อนความหมายค่ะ จำไว้เลยว่า คำนี้ คำหน้าและหลังมีความหมายเหมือนกัน และใช้พยัญชนะต้นตัวเดียวกันด้วย


25 วิ่งเปี้ยว VS วิ่งเปรี้ยว

คำที่ถูก >> วิ่งเปี้ยว
เชื่อว่าเด็กไทยเกินร้อยละ 80 โตขึ้นมากับการเล่นวิ่งเปี้ยว โดยเฉพาะในงานกีฬาสี ปกติคำนี้เราใช้แต่วิธีพูด ไม่ค่อยได้ลงมือเขียนกันเท่าไหร่ ฉะนั้นเวลาต้องมาเขียนจริงๆ ก็นึกไปเองว่าใช้ “เปรี้ยว” เหมือนรสเปรี้ยว แต่ที่ถูกต้องจริงๆ เขียน “เปี้ยว” ธรรมดา ไม่ต้องเติม “ร” นะคะ อเมซิ่งสุดๆ

คำไทยที่มักเขียนผิด




คำแรก ที่เห็นเขียนกันผิดบ่อยมากที่สุด ก็คือ คำว่า " อนุญาติ "
การเขียนที่ถูกต้อง คือ " อนุญาต " ขออนุญาต บน ต ไม่ สระ ิ
คำว่า "ญาติ" หมายถึง "ญาติพี่น้อง" ต้องมี สระ อิ บน ต

คำที่สอง ที่เห็นเขียนผิดบ่อยมากๆ คือ คำว่า " เท่ห์ "
เห็นคนเขียน "อย่างเท่ห์ๆ"" เท่ห์มาก "บ่อยๆ เข้าหลายคนสับสนว่า ตกลงมันมี ห์ หรือไม่มีกันแน่
คำว่า เทห์การเขียนที่ถูกต้องต้องเป็นเท่ ที่ไม่มีห์ค่ะ(อาจสับสนกับคำว่า เทหวัตถุที่มีหแต่ไม่มี  ์

คำอื่นๆ ที่เขียนผิดบ่อยก็มี
ทยอย เขียนผิดเป็น ทะยอย

กฎหมาย เขียนผิดเป็น กฏหมาย ( คำนี้ ใช้ ฎ สะกด ไม่ใช่ ฏ )
ฎ (ไม่มีหยัก) ใช้กับ กฎหมาย กฎเกณฑ์ กฎกติกา
ฏ (มีหยัก) ใช้กับ ปรากฏการณ์ ปรากฏว่า

สังเกต เขียนผิดเป็น สังเกตุ คำนี้ไม่มีสระ อุ ุ ค่ะ แต่ถ้าเป็น หมายเหตุ ก็จะมีสระอุ ุ
โอกาส เขียนผิดเป็น โอกาศ คำว่า โอกาส ที่ถูกต้อง มี ส เป็นตัวสะกด แต่ อากาศ ต้อง



คำที่เขียนผิด

คำที่เขียนถูกมักเขียนผิดเป็นหมายเหตุ
ก็ก้อ
กงเกวียนกำเกวียนกงกำกงเกวียนกง และ กำ เป็นส่วนประกอบของล้อเกวียน
กงสุลกงศุล- "กรมการกงสุล" เรียกสั้น ๆ เป็น "กงสุล"
- ซึ่งคำว่า "กงสุล" นั้นมาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่า "consul"
กฎกฏกฎ ทุกอย่าง ใช้ ฎ ชฎา ยกเว้น ปรากฏ ใช้ ฏ ปฏัก ส่วน กรกฎ/กรกฏ สะกดได้ทั้งสองแบบ
กบฏกบฎ, กบถ- "กบฏ" ใช้ ฏ ปฏัก
- ในสมัยโบราณ เคยสะกดด้วย ฎ ชฎา (ดู พจนานุกรมกฎหมาย ของ ขุนสมาหารหิตะคดี)
- ถ้าออกเสียง "ขะ-บด" เขียน "ขบถ"
กบาลกระบาลกะบาล, -บานใช้เรียกศีรษะ แต่เป็นคำไม่สุภาพ
กรรมกรกรรมกรณ์- "กรรมกร" = คนงาน, ลูกจ้างที่ใช้แรงงาน
- "กรรมกรณ์" = อาญา, เครื่องสำหรับลงอาญา ฯลฯ
กรรมกรณ์กรรมกร- "กรรมกร" = คนงาน, ลูกจ้างที่ใช้แรงงาน
- "กรรมกรณ์" = อาญา, เครื่องสำหรับลงอาญา ฯลฯ
กระเชอกระเฌอ, กะเชอ, กะเฌอระวังสับสนกับ เฌอ
กระเพาะกะเพาะ, กะเพราะ, กระเพราะระวังสับสนกับ กะเพรา
กริยากิริยา"กริยา" (กฺริ-) คือ คำชนิดหนึ่ง บอกอาการ การกระทำ เช่น เดิน วิ่ง เขียน เหล่านี้ คือ คำกริยา
กรีฑากรีธา, กรีทากีฬาประเภทหนึ่ง
กรีธากรีฑาเคลื่อน ยก เดินเป็นหมู่หรือเป็นกระบวน เช่น กรีธาทัพ
กลยุทธ์กลยุทธ, กลยุทธิ, กลยุทธิ์
กลางคันกลางครัน
กลิ่นอายกลิ่นไออาย แปลว่า กลิ่น ดังนั้นจึงเป็นการใช้คำที่มีความหมายซ้ำกัน เช่น คำว่า ภูเขา (ภู แปลว่า เขา)
กสิณกสิน
กเฬวรากกเลวราก
กอปรกอป, กอปร์อ่านว่า "กอบ"
กอล์ฟกลอฟ, กอลฟ์, ก็อลฟ์, ก็อล์ฟ, ก๊อลฟ์, ก๊อล์ฟ
กะทันหันกระทันหัน
กะเทยกระเทย
กะเทาะกระเทาะ
กะบังลมกระบังลม
กะปิกระปิ
กะพงกระพง
กะพริบกระพริบ
กะพรุนกระพรุน
กะเพรากะเพา, กระเพา, กระเพราระวังสับสนกับ กระเพาะ
กะล่อนกระล่อน
กะละมังกาละมัง
กะลาสีกลาสี
กะละแมกาละแม, กาลาแม, กาละแมร์
กะหรี่กระหรี่
กะเหรี่ยงกระเหรี่ยง
กะหล่ำกระหล่ำ
กะโหลกกระโหลกจำไว้ว่า กะโหลก กะลา
กังวานกังวาล
กาลเทศะกาละเทศะ
กาลเวลากาฬเวลากาล หมายถึง เวลา แต่ กาฬ หมายถึง รอยดำหรือแดง
กำเหน็จกำเหน็ด
กิตติมศักดิ์กิติมศักดิ์, เกียรติมศักดิ์
กินรีกินนรีแต่ "กิน-นอน" เขียน 'กินนร'
กิริยากริยา"กิริยา" คือ อาการ การกระทำ เช่น ปฏิกิริยา
กุฎีกุฏิกุฎ, กุฎิ"กุฏิ" อ่านว่า "กุด" หรือ "กุ-ติ" หรือ "กุด-ติ" , ถ้าต้องการอ่าน "กุ-ดี" ต้องเขียน "กุฎี" (ใช้คำไหนก็ได้)
เกมเกมส์ในภาษาไทยสำหรับกรณีทั่วไปจะไม่มีการเปลี่ยนรูปแบบคำใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าสื่อความหมายถึงเอกพจน์หรือพหูพจน์
เว้นแต่เป็นการทับศัพท์วิสามานยนาม เช่น "SEA Games" ว่า ซีเกมส์
เกล็ดเลือดเกร็ดเลือด
เกษียณเกษียน, เกษียรเกษียณ = สิ้นไป เช่นเกษียณอายุ; เกษียน = เขียน; เกษียร = น้ำนม
เกสรเกษรส่วนในของดอกไม้
เกาต์เก๊าท์
เกียรติเกียรติ์อ่านว่า "เกียด", ถ้าเขียน "เกียรติ์" อ่านว่า "เกียน" เช่น รามเกียรติ์
แก๊งแก๊งค์, แก๊งก์"แก๊ง" มาจากภาษาอังกฤษว่า "gang" ในภาษาไทยเป็นภาษาปาก หมายความว่า "กลุ่มคนที่ตั้งเป็นก๊กเป็นเหล่า (มักใช้ในความหมายไม่ดี) เช่น แก๊งโจร แก๊งอันธพาล"
แกร็นแกน, แกรนไม่เจริญเติบโตตามปรกติ (ใช้แก่คน สัตว์ และพืช), เช่น แคระแกร็น

คำที่มักเขียนผิด


 คำที่เขียนถูกมักเขียนผิดเป็น
กงเกวียนกำเกวียนกงกำกงเกวียน 
 กงสุลกงศุล 
 กฎกฏ 
กฎหมาย กฏหมาย 
กบ (เต็ม,แน่น) เช่น เลือดกบปาก เลือดกลบปาก 
กบฏ   กบฎ, กบถ
 กบาล, กระบาล กะบาล, -บาน 
กระจิริดกระจิ๊ดริด , กะจิ๊ดริด
กระหนก (ลายไทย)กนก
กรีฑา (กีฬาประเภทหนึ่ง)  กรีทา, กรีธา
กรีธาทัพ (เคลื่อน ยก เดินเป็นหมู่หรือเป็นกระบวน)กรีฑาทัพ 
กะทันหัน  กระทันหัน 
กะเทยกระเทย
 กะบังลม กระบังลม 
 กะพง กระพง
กะพริบ   กระพริบ
 กะพรุน กระพรุน
กะเพรา กระเพรา 
 กังวาน กังวาล
กาลเทศะ   กาละเทศะ
 เกม เกมส์
 เกษียณอายุ เกษียนอายุ
เกษียนหนังสือ เกษียณหนังสือ,เกษียรหนังสือ
 เกษียรสมุทร เกษียณสมุทร,เกษียนสมุทร
 เกสรเกษร 
เกาต์  เก๊าท์
 แก๊ง แก๊งค์, แก๊งก์
 ขะมักเขม้น   ขมักเขม้น
 ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวมูล
 คทา  คฑา, คธา
ครอก (ฝูงลูกสัตว์ที่เกิดร่วมในคราวเดียวกัน) คลอก (ไฟล้อมเผาออกไม่ได้) 
 คริสตกาล  คริสต์กาล
 คริสตจักร  คริสต์จักร
คริสต์ทศวรรษ คริสตทศวรรษ 
 คริสต์ศตวรรษคริสตศตวรรษ 
 คริสต์ศักราช คริสตศักราช
คริสต์ศาสนา  คริสตศาสนา
ครุภัณฑ์คุรุภัณฑ์
ครุศาสตร์ คุรุศาสตร์
คลิกคลิ้ก, คลิ๊ก
คลินิก   คลีนิก, คลินิค
 ค้อน ฆ้อน
 คอนแวนต์ คอนแวนท์
 คะค๊ะ 
 คำนวณคำนวน 
 คุกกี้คุ้กกี้, คุ๊กกี้ 
 เครื่องราง เครื่องลาง 
เครื่องสำอาง เครื่องสำอางค์ 
แค็ตตาล็อก   แคตตาล็อก, แคตาล็อก
 แคระแกร็นแคระแกรน 
โควตา  โควต้า
งูสวัด   งูสวัส, งูสวัสดิ์
เงินทดรอง เงินทดลอง 
จงกรม จงกลม
จะงอย จงอย
จะจะจะ ๆ
จะละเม็ดจาละเม็ด, จาระเม็ด, จรเม็ด, จระเม็ด
จักจั่นจั๊กจั่น 
จักรพรรดิ  จักรพรรดิ์
จักรวรรดิ จักรวรรดิ์
 จักสานจักรสาน 
 จาระบีจารบี 
 จำนง/เจตจำนง จำนงค์/เจตจำนงค์
 โจทก์จำเลย โจทย์จำเลย
โจทย์เลข โจกท์เลข 
โจษจัน โจทจัน,โจทย์จัน,โจษจรรย์ 
ฉัน ฉันท์ เสมือน เช่น ฉันญาติ ฉันมิตร; รับประทาน ใช้กับพระสงฆ์  ฉันท์
ชโลมชะโลม
 ชอุ่มชะอุ่ม 
ซาวเสียง ซาวด์เสียง, ซาวน์เสียง, ซาวนด์เสียง 
 ซ่าหริ่มสลิ่ม, ซะหริ่ม, ซ่าหลิ่ม 
ซีเมนต์ ซีเม็นต์, ซีเมนท์, ซีเม็นท์, ซีเม็น
เซ็นชื่อเซ็นต์ชื่อ
เซนติเมตรเซ็นติเมตร 
 ฌาน ฌาณ
ดอกจัน (เครื่องหมาย) ดอกจันทร์ ,ดอกจันทน์
ดอกไม้จันทน์  ดอกไม้จันทร์
ดัตช์  ดัชต์, ดัชท์, ดัทช์
 ดำรงดำรงค์ 
 โดยดุษณี (อาการนิ่งซึ่งแสดงถึงการยอมรับ) โดยดุษฎี (ความยินดี , ชื่นชม)
ตรรกะ, ตรรกตรรกกะ  
ตระเวน / ลาดตระเวนตระเวณ / ลาดตระเวณ
ตราสัง ตราสังข์
ตะราง (ที่คุมขังนักโทษ) ตาราง 
ต่าง ๆ นานา ต่าง ๆ นา ๆ  
ตานขโมยตาลขโมย 
เต็นท์  เต๊นท์
ใต้เท้าไต้เท้า 
ไต้ก๋ง  ใต้ก๋ง 
ไตรยางศ์ไตรยางค์
ถนนลาดยางถนนราดยาง
ทโมน ทะโมน, โทมน
ทยอยทะยอย
ทแยง ทะแยง, แทยง 
ทรงกลดทรงกรด 
ทรราช (ผู้ปกครองบ้านเมืองที่ใช้อำนาจสร้างความเดือดร้อน)ทรราชย์ 
ทระนง, ทะนงทรนง, ทนง 
ทลายทะลาย
 ทศกัณฐ์ทศกัณฑ์
ทอนซิลทอมซิน
ทะนุถนอมทนุถนอม
ทะลาย (ช่อหมาก, มะพร้าว)ทลาย (แตกหัก, พัง) 
ทะเลสาบทะเลสาป
เทคนิคเทคนิก
ทูนหัว ทูลหัว 
ทูลกระหม่อมทูนกระหม่อม
เท่เท่ห์
เทพนมเทพพนม
เทิด เทอด 
เทเวศร์เทเวศน์
 เท้าความ ท้าวความ
 แท็กซี่ แท๊กซี่
นอต น็อต, น๊อต 
นัยนัยยะ
นัยน์ตา นัยตา 
น้ำจัณฑ์น้ำจัน
น้ำมันก๊าดน้ำมันก๊าซ, -ก๊าส
น้ำแข็งไสน้ำแข็งใส
โน้ตโน๊ต, โน้ท, โน๊ท 
บ่วงบาศบ่วงบาศก์, บ่วงบาต, บ่วงบาท
บังสุกุล บังสกุล 
บัญญัติไตรยางศ์บัญญัติไตรยางค์
บัตรสนเท่ห์ บัตรสนเท่
บันได บรรได 
บันเทิงบรรเทิง 
บันลือบรรลือ
บางลำพูบางลำภู
บิณฑบาต บิณฑบาตร, บิณฑบาท
บิดพลิ้ว  บิดพริ้ว 
เบรกเบรค
ประกายพรึกประกายพฤกษ์
ประจัญบานประจันบาน, ประจันบาล, ประจัญบาล 
ประจันหน้า ประจัญหน้า
ประณตประนต
ประณม (การน้อมไหว้)ประนม (ยกกระพุ่มมือ)
ประณาม (กล่าวร้าย) ประนาม 
ปรากฏ  ปรากฎ
ปรานี (เอ็นดู) ปราณี (ผู้มีชีวิต) 
ปล้นสะดมปล้นสดมภ์
ปะแล่มปแล่ม, แปล่ม
ปาติโมกข์ปาฏิโมกข์ 
ปิกนิกปิคนิค 
ปุโรหิตปุโลหิต 
เปอร์เซ็นต์เปอร์เซนต์
ผล็อยผลอย
ผลัดเปลี่ยนผัดเปลี่ยน
ผลัดเวรผัดเวร 
ผอบผะอบ
ผัดวันประกันพรุ่ง ผลัดวันประกันพรุ่ง
ผัดหนี้ผลัดหนี้ 
ผาสุกผาสุข
เผอเรอเผลอเรอ
ผัดไทยผัดไท 
พะแนง พแนง, แพนง 
พะยอมพยอม 
พันทางพันธุ์ทาง
พัศดีพัสดี
พากย์หนังพากษ์หนัง
พานจะเป็นลม พาลจะเป็นลม 
พิศวาส พิสวาส 
พิสดารพิศดาร 
พิสมัยพิศมัย
พุทธชาดพุทธชาติ 
เพชฌฆาต เพชรฆาต, เพ็ชรฆาต
เพนียดพเนียด, พะเนียด
เพริศพริ้งเพริดพริ้ง
เพียบพร้อมเพรียบพร้อม
แพทยศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ 
โพนทะนาโพนทนา
โพสพโพศพ
ฟังก์ชันฟังก์ชั่น
ฟิล์ม  ฟิลม์, ฟิมล์, ฟิม์ล 
ฟุลสแก๊ปฟูลสแกป 
ไฟแช็กไฟแชค, ไฟแช็ค 
มงกุฎมงกุฏ
มณฑปมนฑป, มณทป 
ม่อห้อม, ม่อฮ่อม, หม้อห้อม หม้อฮ่อม 
มัคคุเทศก์ มัคคุเทศ, มัคคุเทศน์
มัคนายก, มรรคนายกมัคทายก, มรรคทายก
มัสตาร์ด มัสตาด 
 มัสมั่นมัสหมั่น 
 มานุษยวิทยามนุษยวิทยา 
ม่าเหมี่ยวมะเหมี่ยว
มุกตลกมุขตลก 
 ไมยราบ (พรรณไม้) ไมยราพ
ไมยราพณ์ (ตัวละครในรามเกียรติ์)ไมยราพ
ย่อมเยา ย่อมเยาว์
 รสชาติรสชาด 
ระเห็จ  รเห็จ, เรห็จ
รักษาการ (ปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราว) รักษาการณ์
รักษาการณ์ (เฝ้าดูแลเหตุการณ์)รักษาการ
ราชัน (พระเจ้าแผ่นดิน)ราชันย์ (เชื้อสายของพระเจ้าแผ่นดิน)
แร็กเกต แร็กเก็ตแร็กเก็ต
ลมปราณลมปราน 
ล็อกเกตล็อกเก็ต 
ละโมบลโมบ
ละเอียดลออ ลเอียดลออ, ละเอียดละออ 
ลายเซ็นลายเซ็นต์ 
ลิดรอนสิทธิ์ริดรอนสิทธิ์
ลิฟต์ลิปต์, ลิฟ, ลิฟท์  
ลำไยลำใย
ลูกนิมิตลูกนิมิตร
ลูกบาศก์ลูกบาศ
เล่นพิเรนทร์เล่นพิเรนท์
เลือนราง  เลือนลาง
เลิกรา เลิกลา 
โลกาภิวัตน์ โลกาภิวัฒน์ 
 โล่โล่ห์ 
ไล่เลียงไล่เรียง, ไร่เรียง, ไร่เลียง 
วันทยหัตถ์ วันทยาหัตถ์
วันทยาวุธวันทยวุธ 
วายชนม์วายชน 
วารดิถีวาระดิถี 
วิ่งเปี้ยววิ่งเปรี้ยว
วิ่งผลัดวิ่งผัด
วิหารคดวิหารคต 
 วีดิทัศน์วิดีทัศน์,วีดีทัศน์ 
เวทมนตร์ เวทย์มนตร์, เวทมนต์ 
เวนคืนเวรคืน 
สไบสะไบ, ไสบ
สังเกตสังเกตุ 
สันโดษสัญโดษ
สัมมนาสัมนา, สำมะนา 
สาบสูญสาปสูญ 
สาปแช่งสาบแช่ง
สามเส้าสามเศร้า
สายสิญจน์สายสิญจ์
 สิริมงคล ศิริมงคล
สีสวาดสีสวาท, สีสวาส
สุกียากี้สุกี้ยากี้
เสื้อกาวน์เสื้อกาว, เสื้อกาวด์ 
แสตมป์ สแตมป์ 
หมูหย็องหมูหยอง
หมาในหมาไน 
หมามุ่ย, หมามุ้ยหมาหมุ้ย
หย็องแหย็ง หยองแหยง 
หลงใหล หลงไหล 
หัวมังกุท้ายมังกรหัวมงกุฎท้ายมังกร
เหลวไหล เหลวใหล 
ใหลตาย (โรค)ไหลตาย 
องคชาตองคชาติ
อนุญาตอนุญาติ 
อนุมัติอนุมัต
อเนกประสงค์เอนกประสงค์
อเนจอนาถอเนถอนาถ
ออฟฟิศอ็อฟ-, -ฟิซ, -ฟิส, -ฟิต  
อ้อยควั่น  อ้อยขวั้น, อ้อยฟั่น 
อะลุ่มอล่วย, อะลุ้มอล่วย อลุ่มอล่วย, อะลุ่มอะหล่วย 
อะไหล่ อาหลั่ย, อาไหล่, อะหลั่ย 
อัญชันอัญชัญ
อัตคัด อัตคัต 
อานิสงส์ อานิสงฆ์ 
อาเพศ อาเพท, อาเภท 
อินทรี (ปลา, นก) อินทรีย์ (ร่างกายและจิตใจ) 
 อินฟราเรด อินฟาเรด, อินฟาร์เรด 
อิริยาบถ อิริยาบท 
อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็คทรอนิกส์, อิเล็คโทรนิกส์ 
อีเมล อีเมล์
เอเชีย เอเซีย 
ไอศกรีม ไอศครีม, ไอติม, ไอสกรีม

27 คำที่คุณชอบสะกดผิด

มีคำภาษาไทยมากมายที่เราสะกดผิดกันมาตลอดชีวิต โดยที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ามันผิด และเชื่อแน่นอนว่า คำเหล่านี้คุณอาจสะกดผิดเกินครึ่งด้วยซ้ำไป เอาเป็นว่า ใครที่ดูคำเหล่านี้แล้วสะกดถูกเกิน 10 คำก็ถือว่าเก่งแล้ว

1.กะเทยVSกระเทย

คำที่ถูก >> กะเทยคำที่ผิด >> กระเทยเขียนผิดกันมากสำหรับคำๆ นี้ ให้จำไว้ว่า อยากเป็นกระเทย ไม่ต้อง “รอ”

2. โควตา VS โควต้า

คำที่ถูก >> โควตา
คำที่ผิด >>โควต้า
ตามหลักการเขียนคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเติมวรรณยุกต์ค่ะ ดังนั้น Quota จึงเขียนได้ว่าโควตา ไม่ต้องเติมไม้โทให้คำว่า “ตา” นะ

3. ต่างๆ นานา VS ต่างๆ นาๆ

คำที่ถูก >> ต่างๆ นานาคำที่ผิด >> ต่างๆ นาๆโดยปกติคำซ้ำจะเติมเครื่องหมายไม้ยมกไว้ด้านหลังคำที่ต้องการซ้ำ ยกเว้นคำว่า “นานา” “จะจะ” ที่ไม่ต้องซ้ำนะ เขียนแบบเดิมสองครั้งได้เลย

4. ผลัดวันประกันพรุ่ง VS ผัดวันประกันพรุ่ง

คำที่ถูก >> ผัดวันประกันพรุ่งคำที่ผิด >> ผลัดวันประกันพรุ่งผัดวันประกันพรุ่งไม่ต้องมี “ล” นะคะ “ผลัด” แบบนี้ใช้สำหรับ “ผลัดผ้า”

5. ผาสุข VS ผาสุก

คำที่ถูก >> ผาสุกคำที่ผิด >> ผาสุขเชื่อว่าหลายคนไปโยงกับความหมายความสุข ก็เลยใช้ “ข” สะกด แต่จริงๆ แล้วใช้ “ก” สะกด

6. กงเกวียนกำเกวียน VS กงกำกงเกวียน

คำที่ถูก >> กงเกวียนกำเกวียนคำที่ผิด >> กงกำกงเกวียนที่ถูกต้องคือ”กงเกวียนกำเกวียน” เพราะทั้ง กง และ กำ เป็นส่วนประกอบของล้อเกวียน

7. กังวาล VS กังวาน

คำที่ถูก >> กังวานคำที่ผิด >> กังวาลกังวาน เป็นอีกคำที่สะกดด้วย “น” ได้เลย ไม่ต้องไปสะกดแบบอื่นให้มันยากกว่าเดิม

8. ผัดไทย VS ผัดไท

คำที่ถูก >> ผัดไทยคำที่ผิด >> ผัดไทคำนี้มีวิธีการจำง่ายๆ ตามที่ราชบัณฑิตยสถานบอกไว้ก็คือ คำว่า “ไทย” ในผัดไทย เขียนเหมือนคนไทย นั่นเอง

9. อานิสงส์ VS อานิสงฆ์

คำที่ถูก >> อานิสงส์คำที่ผิด >> อานิสงฆ์อานิสงส์ มีความหมายในตัว คือ ผลแห่งกุศลกรรม ซึ่งเป็นคำบาลี(อานิสํส) ไม่ใช่ พระสงฆ์ ดังนั้นจึงใช้ “ส์”

10. ใบกะเพรา VS ใบกระเพรา

คำที่ถูก >> ใบกะเพราคำที่ผิด >> ใบกระเพราการเขียนที่ถูกต้องจริงๆ มี “ร” เพียงแค่ที่เดียว คือ”เพรา” ส่วน “กะ” ไม่ต้องมี “ร”

11. ข้าวเหนียวมูน VS ข้าวเหนียวมูล

คำที่ถูก >> ข้าวเหนียวมูนคำที่ผิด >> ข้าวเหนียวมูล“มูล” หมายถึง ราก หรือเศษสิ่งของต่างๆ รวมไปถึงอุจจาระ ซึ่งต้องใช้คำว่า “มูน” หมายถึง การเอากะทิมาคลุกเคล้ากับข้าวเหนียวเพื่อให้เกิดความมันนั่นเอง

12. คลินิก VS คลีนิก VS คลินิค

คำที่ถูก >> คลินิกคำที่ผิด >> คลีนิก, คลินิคคำนี้เขียนกันหลากหลายรูปแบบเลย ทั้ง คลินิก, คลีนิก, คลีนิค, คลินิค แต่ที่ถูกต้องจริงๆ เป็นเสียงสั้นใช้สระอิ และใช้ “ก” สะกด

13. คัดสรร VS คัดสรรค์

คำที่ถูก >> คัดสรรคำที่ผิด >> คัดสรรค์“คัดสรร” ไม่ต้องมีตัว “ค์” จ้า เพราะคำว่า “สรร” หมายถึง การเลือก, การคัดอยู่แล้ว และคำนี้ก็เป็นคำซ้อนที่เอาความหมายเหมือนกันมาซ้อนคำกันนั่นเอง

14. สังสรรค์ VS สังสรร

คำที่ถูก >> สังสรรค์คำที่ผิด >> สังสรรอีกหนึ่งตัวอย่างสำหรับคำตระกูล “สัน” แต่สำหรับคำว่า สังสรรค์ จะต้องตามด้วย “ค์” เสมอ

15. โคตร VS โครตคำที่ถูก >> โคตรคำที่ผิด >> โครต

ทั้ง 2 คำอ่านว่า “โคด” เหมือนกัน แต่ถ้าสังเกตการออกเสียงดีๆ จะรู้ว่าคำนี้ไม่มีควบกล้ำ ดังนั้นวิธีเขียนที่ถูกต้องคือ เอา “ร” ไว้หลังสุด คือ โคตร

16. จลาจล VS จราจล

คำที่ถูก >> จลาจล
คำที่ผิด >> จราจล
วิธีจำให้เขียนถูกง่ายนิดเดียว คำว่า “จราจร” ใช้ “ร” ทั้งสองตัว ส่วน “จลาจล” ก็ใช้ “ล” ทั้งสองตัวเช่นเดียวกันค่ะ

17. น้ำมันก๊าซ VS น้ำมันก๊าด

คำที่ถูก >> น้ำมันก๊าด
คำที่ผิด >> น้ำมันก๊าซ
ให้จำเอาไว้ว่าเขียนให้ง่ายๆ ตามแบบคนไทยใช้ “ด” ไม่ต้องสนใจว่ามาจากภาษาอังกฤษคำว่า Gas

18. ทะเลสาบ VS ทะเลสาป

คำที่ถูก >> ทะเลสาบ
คำที่ผิด >> ทะเลสาป
คำว่า “สาป” ในภาษาไทยมีเพียงความหมายเดียว หมายถึง คำแช่ง ดังนั้นจึงต้องใช้คำว่า “สาบ”

19. เครื่องสำอางค์ VS เครื่องสำอาง

คำที่ถูก >> เครื่องสำอาง
คำที่ผิด >> เครื่องสำอางค์
ที่ถูกต้องจริงๆ ต้องเขียนว่า “เครื่องสำอาง” โดยคำว่า “สำอาง” มีความหมายว่า สิ่งเสริมแต่ง บำรุงใบหน้า

20. นะค่ะ VS นะคะ VS น๊ะค๊ะ

คำที่ถูก >> นะคะ
คำที่ผิด >> นะค่ะ, น๊ะค๊ะ
เป็นคำที่ผู้หญิงใช้ผิดมากที่สุดคำหนึ่ง จริงๆ จำไว้แค่ว่า “นะคะ” ไม่ต้องมีวรรณยุกต์ใดๆ ไม้เอก ไม้โท ไม่ตรี ไม่มีทั้งนั้น จบ

21. บังสุกุล VS บังสกุล

คำที่ถูก >> บังสุกุล
คำที่ผิด >> บังสกุล
บังสุกุล เป็นคำที่ใช้เรียกผ้าที่พระสงฆ์ชักจากศพหรือผ้าที่ทอดไว้หน้าศพ คำนี้เมื่อพูดเร็วๆ รัวๆ อาจฟังเป็น บังสกุล ซึ่งเป็นการสะกดที่ผิด

22. ผีซ้ำด้ามพลอย VS ผีซ้ำด้ำพลอย

คำที่ถูก >> ผีซ้ำด้ำพลอย
คำที่ผิด >> ผีซ้ำด้ามพลอย
ที่ถูกคือ “ด้ำ” แต่อาจเพี้ยนกลายเป็นคำว่า “ด้าม” เพราะคนไม่เข้าใจความหมายคำว่า “ด้ำ” ซึ่งหมายถึง ผีเรือน

23. พิธีรีตอง VS พิธีรีตรอง

คำที่ถูก >> พิธีรีตอง
คำที่ผิด >> พิธีรีตรอง
พิธีรีตอง หมายถึง งานพิธีตามแบบตามธรรมเนียม เวลาเขียนคำนี้ไม่ต้องเติม “ร” ในคำว่า “ตอง” ท่องเลยๆ

24. แพทยศาสตร์ VS แพทย์ศาสตร์

คำที่ถูก >> แพทยศาสตร์
คำที่ผิด >> แพทย์ศาสตร์
“แพทยศาสตร์” เป็นคำสมาสระหว่างคำว่า “แพทย์” + “ศาสตร์” เมื่อเอามารวมกัน คำก่อนหน้าที่มีการันต์ให้ตัดทิ้งได้เลย

25. ริดรอน VS ลิดรอน

คำที่ถูก >> ลิดรอน
คำที่ผิด >> ริดรอน
วิธีการเขียนคำนี้ให้ถูกต้อง ต้องเขียนว่า “ลิดรอน” พยางค์หน้าใช้ “ล” พยางค์หลังใช้ “ร”

26. ไล่เรียง VS ไล่เลียง

คำที่ถูก >> ไล่เลียง
คำที่ผิด >> ไล่เรียง
“ไล่” หมายถึง การขับออก, บังคับให้ไป ส่วน “เลียง” ก็หมายถึง การไล่สิ่งไม่บริสุทธิ์ออก ดังนั้นคำนี้จึงเป็นคำซ้อน

27. วิ่งเปี้ยว VS วิ่งเปรี้ยว

คำที่ถูก >> วิ่งเปี้ยว
คำที่ผิด >> วิ่งเปรี้ยว
ปกติคำนี้เราใช้แต่วิธีพูด ไม่ค่อยได้ลงมือเขียนกันเท่าไหร่ ฉะนั้นเวลาต้องมาเขียนจริงๆ ก็นึกไปเองว่าใช้ “เปรี้ยว” เหมือนรสเปรี้ยว แต่ที่ถูกต้องจริงๆ เขียน “เปี้ยว”